มนต์เสน่ห์ลาเวนเดอร์แห่งเกาะฮอกไกโด

ฮอกไกโด ความประทับใจที่ไม่เคยลืมเลือน

มนต์เสน่ห์ลาเวนเดอร์แห่งเกาะฮอกไกโด

ภาพประกอบและเขียนเรื่องโดย พงษ์ลดา อิทธิเมฆินทร์

รถไฟสายฟุระโนะ บิเอะ โนะรคโกะ สายพิเศษเปิดให้บริการช่วงฤดูร้อนเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆเลียบทางหลวงหมายเลข 237 ผ่านทัศนียภาพสวยงามของดอกไม้หลากสีบนเนินเขาสูงต่ำที่อยู่ไกลสุดสายตาสองข้างทางรถไฟ ฉันนั่งอยู่ที่เก้าอี้ริมหน้าต่างรถไฟมองวิวธรรมชาติที่งดงามยิ่งนัก นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและชาติอื่นๆ บางคนยื่นหน้าออกไปรับลมและชมวิว บางคนถ่ายรูปด้วยมือถือ ขณะที่บางคนเตรียมกล้องตัวใหญ่มาถ่ายรูปวิวธรรมชาติอย่างจริงจัง

เมื่อถึงสถานีรถไฟลาเวนเดอร์ บาตาเกะ ฉันเดินลงจากรถไฟและเดินไปอีกประมาณ 7 นาที ผ่านข้างทางมีฟาร์มเมลอนซึ่งอยู่ติดกับถนน แปลงต้นเมลอนแต่ละแปลงปกคลุมมิดชิดด้วยพลาสติกอย่างหนาแต่ใสเหมือนโรงเรือนปลูกต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่สามารถมองเห็นเมลอนผลโตที่กองอยู่บนพื้นที่คลุมด้วยพลาสติกได้อย่างชัดเจน

ฉันเดินไปจนถึงจุดหมายปลายทางคือฟาร์มโทมิตะแห่งเมืองฟุระโนะ สวนเกษตรเชิงท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมเป็นช่วงเวลาแห่งการชมลาเวนเดอร์ พื้นที่อันกว้างใหญ่แต่งแต้มด้วยดอกไม้หลากสีที่เบ่งบานตามฤดูกาล ทุ่งเทรดดิชั่นนอล ลาเวนเดอร์ การ์เด้นที่มีประวัติความเป็นมายาวนานที่สุดในญี่ปุ่น เริ่มตั้งแต่ปีคริสต์ศักราช 1903 โทกูมา โทมิตะ รุ่นแรกของตระกูลริเริ่มปลูกดอกไม้ลงบนพื้นดินที่เป็นฟาร์มโทมิตะในปัจจุบัน ฟาร์มนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมครั้งแรกเมื่อปีคริสต์ศักราช 1958 ทุ่งดอกไม้แห่งนี้นี้มีดอกไม้ 7 สีราวกับสีรุ้ง ฉันยืนมองทุ่งลาเวนเดอร์แปลงแรกของที่นี่ด้วยความตื่นตาตื่นใจ มันช่างเหมือนผืนพรมสีม่วงคลุมเนินราบกว้างใหญ่ ฉันเดินขึ้นไปยืนตรงจุดสูงสุดของเนินจนเห็นเทือกเขาโทกิชิดาเกะอยู่ไกลๆ ทัศนียภาพแบบชนบทของฟุระโนะสวยงามยิ่งนัก

ฮานาบิโตะ เฮ้าส์ หรือพิพิธภัณฑ์ ร้านขายของที่ระลึกและร้านกาแฟ บ้านดอกไม้แห้ง ห้องแสดงนิทรรศการดอกไม้แห้งที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งตกแต่งในคอนเซปท์ ฤดูใบไม้ร่วงในฮอกไกโด (Autumn in Hokkaido) ตามความคิดสร้างสรรค์ของนาย เลน อัลเคเมด ( Mr. Len Alkemade) นักจัดดอกไม้จากเนเธอร์แลนด์ ดอกไม้นานาพันธุ์บานสะพรั่งสวยงามสดใสในกรีนเฮ้าส์ตลอดปี มีการสาธิตทำน้ำหอมจากลาเวนเดอร์ ภายในบ้านเครื่องหอม ( Potpouri House) มีกิฟต์ช็อปและร้านกาแฟ โรงสะกัดน้ำมันลาเวนเดอร์แห่งเดียวของญี่ปุ่นเปิดให้เข้าชมการสะกัดน้ำมันจากลาเวนเดอร์ได้

ฉันยืนมองทุ่งดอกไม้เบื้องหน้าที่มีดอกลาเวนเดอร์สีม่วง เบบี้เบรทซ์ (baby’s breath) สีขาว ป๊อปปี้สีแดง วิลเลี่ยมแคชฟลายสีชมพู และป๊อปปี้แคลิฟอร์เนียสีส้ม ทุ่งซาคิวาอิหรือทุ่งแห่งความสุข ชื่อนี้ตั้งขึ้นเพื่ออวยพรให้นักท่องเที่ยวมีความสุข นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่รวมฉันด้วยยืนถ่ายรูปคู่กับป้ายโทมิตะที่มีรถจักรยานจอดอยู่ข้างๆ ด้านหลังของฉันเป็นทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงและพันธุ์ต่างๆ ได้แก่ โนชิ ฮายาซากิ, โอกามูราซากิ, โยเตอิ และ ฮานาโมอิวะ ดอกไม้หลากสีตระการตา สวยมากจนฉันห้ามใจไม่อยู่ต้องเดินเข้าไปยืนอยู่กลางทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงที่มีฉากหลังเป็นภูเขาท้องฟ้าสีครามสดใส มันช่างเป็นภาพที่สวยงามมาก

เท้าของฉันพาเดินไปตามทางเดินที่ทอดยาวไปสู่ทุ่งฮานาบิโตะซึ่งเป็นทุ่งดอกไม้หลากสี เหลืองแดงชมพู ดูตระการตามาก สวนดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นทุ่งดอกป๊อปปี๊หลากสีสดใสบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิจนถึงต้นฤดูร้อน ทุ่งฤดูใบไม้ร่วง ทุ่งดอกไม้หลากสีสดใสที่บานสะพรั่งรับฤดูใบไม้ร่วง สีดอกไม้สดใสตัดกับท้องฟ้าสว่างสดใส ช่วงต้นฤดูร้อน กลิ่นหอมของกุหลาบญี่ปุ่นหอมอบอวลไปทั่ว

ฉันเดินชมดอกไม้และถ่ายรูปกับทุ่งป่าหรือทุ่งดอกไม้ป่าซึ่งเป็นเนินเขาปกคลุมด้วยดอกลาเวนเดอร์ ป๊อปปี้ และดอกไม้สีสดใสอื่นๆ ล้อมรอบด้วยต้นไม้สีเขียวขจีด้วยความเพลิดเพลิน อดใจไม่ไหวต้องถ่ายรูปตัวเองกับดอกไม้ตามประสาคนชอบถ่ายรูป นักท่องเที่ยวคนอื่นๆก็คงคิดเหมือนฉัน ทุ่งดอกไม้จึงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่รอคิวเพื่อถ่ายรูปกับมุมสวยๆเป็นที่ระลึก

อาทิตย์ยามเที่ยงแสงจัดจ้าแต่มีลมอ่อนๆจึงไม่ร้อนนัก ท้องของฉันเริ่มร้องจ๊อกๆ ฉันจึงเดินไปหามื้อเที่ยงรับประทานฟุระโนะ โอะมุ คะเร หรือ ข้าวห่อไข่ราดแกงกะหรี่ เมนูข้าวห่อไข่มีเครื่องเคียงเป็นข้าวโพดต้ม ถั่วงอกผัดกับผักสีเขียวและแอปเปิ้ลอบจนสุก ทำให้ฉันอิ่มอร่อย จากนั้นฉันจึงเดินย่อยอาหารไปเรื่อยๆจนถึงสถานบริการที่จัดห้องให้นักท่องเที่ยวได้นอนแช่น้ำชมทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงที่บานสะพรั่งได้จากห้องอาบน้ำที่จัดไว้ให้ มันเป็นความเพลิดเพลินและผ่อนคลายที่ดีที่สุด

ฉันเดินต่อไปที่สวนแห่งลม คะเซะ โนะ การ์เด้นท์ ที่ใช้เป็นฉากถ่ายละครฮิตของญี่ปุ่น และไปเดินดูของที่นินเกิล เทอร์เรส ล็อกเฮ้าส์หรือบ้านไม้ซุงที่เป็นร้านค้า 15 หลัง ตั้งกระจายกันอยู่ในป่า เพื่อเลือกซื้อของฝากคนทางบ้านด้วย

หลังจากชมกระบวนการผลิตไวน์ในโรงงานฟุระโนะชิ ชิมิทสึยะมะ และไปที่ร้านขายขนมของฝากของฮอกไกโดเพื่อนั่งดื่มกาแฟชมวิวไร่องุ่น ฉันอดใจไม่ได้ต้องขอลิ้มรสซอฟครีมรสองุ่นสีชมพูเสิร์ฟมาในถ้วยไอศรีมอีกหนึ่งถ้วยกับขนมญี่ปุ่นไทยะกิ ซึ่งมีส่วนประกอบหลักคือแป้งทำเป็นรูปปลาไท ของอร่อยของเมืองฟุระโนะ การท่องเที่ยวของฉันในวันนี้จัดได้ว่าครบทุกอย่างและพยายามเก็บทุกรายละเอียด จึงทำให้ฉันอิ่มตา อิ่มท้อง อิ่มใจ... มันเป็นความประทับใจที่จะอยู่ในความทรงจำของฉันตลอดไป...ไม่มีวันลืม

0
1
Эта статья была вам полезна?
Help us improve the site
Give Feedback

Thank you for your support!

Your feedback has been sent.